ปรับแต่ง clock cpu และ mode การทำงานเป็น performance

ผลการทดสอบ glmark2-es2 แรใช่เล่น  ประสิทธิภาพโดยรวมใกล้เคียง x86 Celeron 5105  แถมมี NPU ให้ใช้งาน

  ผลออกมาประสิทธิภาพเรียงจาก น้อยไปมาก  CPU RYZEN9 5900HS < GTX1650 Mobile < Tesla T4  โดยประสิทธิภาพของ CPU ใช้เวลาประมาณ 2:30 Hr  ตามมาด้วย GTX1650 ใช้เวลาประมาณ 8 นาที  Tesla T4 ใช้เวลาประมาณ 4 นาที

  จะเห็นได้ว่า ไม่มี GPU แทบไม่ต้องทำอะไรกันเลยทีเดียวกว่าจะคำนวณเสร็จ  ส่วน GTX1650 Mobile ประสิทธิภาพตาม Tesla T4 แค่ 1 เท่าตัวเท่านั้น  เทียบกับราคาแล้ว  ใช้ gaming gpu กับงาน AI ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างมากและขาดไม่ได้

  แถมท้าย  RTX3080 Mobile จะคำนวณเร็วกว่า Tesla T4 1 เท่าตัว  โดยจะใช้เวลาแค่ 2 นาทีเศษเท่านั้น  และถ้าทำงานแบบ Native OS จะเพิ่มประสิทธิภาพได้มากขึ้น  โดยจะใช้เวลาคำนวณไม่ถึง 2 นาที

https://technical.city/en/video/GeForce-GTX-1650-mobile-vs-Tesla-T4

เป็นการทดสอบประสิทธิภาพการคำนวณ mAP (mean average precision)  บน darknet เพื่อใช้งาน YOLOv4 บน GPU nvidia GTX1650 Mobile Max-Q  ซึ่งอยู่ในตระกูล Turing รวมสาย RTX20 Series แต่ถูกตัด Tensor Core ไป  ในด้าน AI  และ CPU AMD Ryzen9 5900HS mobile  รวมทั้งเปรียบเทียบกับ nvidia Tesla T4  ร่วมสายตระกูล Turing

9. จากนั้น run sudo nano /var/lib/bluetooth/<bluetooth dongle>/<new bluetooth device>/info
10. แก้ไขค่า parameter key ต่างๆให้ตรงกับที่ได้จาก bluetooth_fix.py
11. run sudo systemctl restart bluetooth

  ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดจะสามารถใช้งาน bluetooth device ได้

8. กลับมาที่ ubuntu จากนั้น copy ค่า bluetooth device เก่า  มาเป็นต้นแบบรอการแก้ไข  โดยใช้คำสั่ง sudo cp -R /var/lib/bluetooth/<bluetooth dongle>/<old bluetooth device> /var/lib/bluetooth/<bluetooth dongle>/<new bluetooth device>
  โดย new bluetooth device นี้  คือค่าที่ได้จากการ run bluetooth_fix.py

5. จากนั้นใช้ tools ช่วย  python script ที่จะแปลงค่า parameter key ที่จะนำไปใช้ใน ubuntu  https://github.com/gawells/dual-boot-bluetooth-pair
6. จากนั้น run python3 clean_reg_file.py --file_path btkeys_export.txt --output clean.reg  (ล้าง " ก่อนใช้ script อีกตัวเพื่อแปลงค่า key ที่จำเป็นต้องนำไปใช้)
7. จากนั้น run python3 bluetooth_fix.py --reg_path clean.reg  เราจะได้ key ที่จำเป็นต่างๆ  ต้องนำค่าเหล่านี้ไปแก้ไขใน info

2. Reboot เครื่อง  เพื่อเข้า windows แล้ว Pair อุปกรณ์บน Windows อีกครั้ง
3. จะทำการ export key ต่างๆของอุปกรณ์จาก regedit ของ windows  แต่ ค่าเหล่านี้ต้อง export ผ่าน system account เท่านั้น  ฉะนั้นจำเป็นต้องต้องใช้ tools ช่วยอย่าง pstools
4. จากนั้น  เปิด command prompt ด้วยสิทธิ administrator  แล้ว run คำสั่ง PsExec64.exe -s -i regedit /E d:\btkeys_export.reg "HKEY_LOCAL_MACHINE\SYSTEM\CurrentControlSet\Services\BTHPORT\Parameters\Keys"

1. ทำการ Pair Bluetooth Device ที่ต้องการเข้ากับ Ubuntu เสียก่อนเพื่อให้ Ubuntu สร้าง parameter information ต่างๆบน Ubuntu โดยจะอยู่ที่ /var/lib/bluetooth/<bluetooth donble>/<bluetooth device>  ซึ่ง file สำคัญที่จะนำมาแก้ไขคือ info

หลังจากต้องใช้งาน Ubuntu และ Win11 สลับไปมา  ทำให้ต้องการใช้งาน Bluetooth Mouse ได้ทั้ง 2 OS  จึงเป็นที่มาของ Trick นี้  อ้างอิง https://unix.stackexchange.com/questions/255509/bluetooth-pairing-on-dual-boot-of-windows-linux-mint-ubuntu-stop-having-to-p

ส่วน driver ตาม link https://www.youtube.com/watch?v=I1SVVp9GX9I  ต้องใช้ kernel 4.9 ตามแบบใน clip ถึงจะ compile ผ่าน  เนื่องจากมี source มาให้  ส่วน os ใช้พื้นฐานจาก web orangepi

กว่าจะได้ทดสอบ 3D บน OrangePi Zero2 ที่ใช้ CPU H616 ที่มาพร้อมกับ GPU Mali G31MP2 กว่าจะหา Driver ติดตั้งลงได้  รอมานานแสนนาน  โดยผลการทดสอบมีดังนี้บน gl-mark2 (gl-mark2-es2 เกิด error มีปัญหากับ GPU Driver)
- run commnad gl-mark2  score 34
- run command gl-mark2 -s 1920x1080 score 15

ตัวที่เทียบชนได้ใกล้เคียงคงเป็น Odroid C4 ที่ แกน CPU ใหม่กว่า ด้วย Cortex A55  ส่วน H616 ใช้ Cortex A53  ส่วน GPU ใช้รุ่นใกล้เคียงกันคือ Mali G31    โดยผลที่เคยทดสอบได้นั้น Odroid C4 แรงกว่าขาดลอย  และแพงกว่าเป็นเท่าตัวเช่นกัน

  ถ้าต้องการควบคุมการใช้ Resource บน WSL สามารถกระทำได้โดยการเพิ่ม config ลงใน file  %userprofile%.wslconfig

เช่น
[wsl2]
memory=4GB
processors=4
swap=4GB

กำหนด limit Memory ให้ใช้เพียง 4GB, limit CPU Cores จำนวน 4 Cores, กำหนด limit Swap File ที่ 4GB

  จากนั้น restart win หรือใช้คำสั่ง wsl --shutdown
 

หลังจากทดลองเล่น WSL ได้สักพักสิ่งสำคัญในการใช้งานคือการ Backup VM เผื่อทำอะไรผิดพลาดหรือย้ายเครื่องไปใช้งานเครื่องอื่นๆจะได้ไม่เสียเวลาติดตั้ง App ต่างๆทั้งหมดรวมทั้ง Config สภาพแวดล้อมต่างๆ

- เรียกดู VM หรือ WSL จะเรียก Distro
wsl --list

- Backup Distro ที่ต้องการ
wsl --export <Distro Name> <Backup File>
เช่น wsl --export Ubuntu backup_ubuntu.tar

- Restore Distro ที่ต้องการ
wsl --import <Distro Name> <Dir to restore> < Backup File>
เช่น wsl --import Ubuntu_20 C:\VM_Ubuntu D:\backup_ubuntu.tar

- ลบ Distro ออกจาก List
wsl --unregister <Distro Name>
เช่น wsl --unregister Ubuntu

- ที่ขาดไม่ได้  ถ้ามีการปรับ Resource ของ wsl เช่นการเพิ่มลด Resource ต่างๆ  ต้อง shutdown wsl เสียการ
wsl --shutdown

- update wsl ซึ่งใช้ในการ download patch update ใหม่ๆ
wsl --update

- Run Distro
wsl -d <Distro Name>
wsl -d <Distro Name> -u <user>

ทดสอบแสดงผลที่ FullHD ด้วยคำสั่ง glmark2-es2 -s 1920x1080  ได้คะแนนการทดสอบ 80  แค่ทำงาน gui ได้  ช่วยทำให้ใช้งาน tensorflow หรือ pytorch แสดง graph ได้  ไม่ต้องมา debug code ตอนข้าม environment ระหว่าง win กับ linux  เรียกใช้ lib ใหม่ๆที่ออกบน linux ก่อนได้